แนะนำวิธีเลือกเครื่องอบผ้า เลือกอย่างไรให้เหมาะสมและเข้ากับบ้านของคุณ

วิธีเลือกเครื่องอบผ้า

                การมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ติดบ้านไว้บ้าง ดูจะเป็นเรื่องที่จำเป็นมากกับการใช้ชีวิตประจำวันของคนในยุคปัจจุบัน นอกจากจะมีประโยชน์ต่อสมาชิกในครอบครัวแล้วยังช่วยย่นระยะเวลาในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ให้เป็นผลสำเร็จได้รวดเร็วขึ้น อย่างเช่นเรื่องการตากผ้า ข้อดีของการใช้เครื่องทุ่นแรงเหล่านี้คือเราแทบไม่ต้องลงมือทำเอง จะให้หยิบเสื้อผ้าขึ้นมาตากทีละตัวแล้วต้องคอยเก็บผ้าหนีฝนตลอด ก็ดูจะเป็นเรื่องที่เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ เทคโนโลยีที่ถูกสร้างมาให้ใช้เราก็ต้องใช้ อย่างเครื่องอบผ้านี่เองที่เริ่มมีการใช้งานอย่างแพร่หลายในกลุ่มคนวัยทำงานมากขึ้น วันนี้เราจึงมีคำแนะนำดี ๆ ถึงวิธีเลือกเครื่องอบผ้ามาฝากกัน

ข้อควรคำนึงเมื่อต้องการมีเครื่องอบผ้าไว้ใช้งานในบ้าน

                ก่อนการเลือกซื้อเครื่องอบผ้าสักเครื่องนั้น ควรวางแผนให้ดีเสียก่อนเพราะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่และมีราคาสูง ดังนั้นจะต้องแน่ใจแล้วว่าเครื่องอบผ้าที่ซื้อมานั้น จะต้องเป็นเครื่องอบผ้าที่ดีที่สุดตรงกับความต้องการจริง ๆ จึงจำเป็นต้องมีหลักเกณฑ์วิธีการเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทนี้มาพิจารณาก่อนทุกครั้ง

1. กำหนดขนาดตัวเครื่องที่เหมาะสมกับความต้องการใช้งาน

                ขนาดของเครื่องอบผ้ามีตั้งแต่ขนาดเล็กความจุ 4 กิโลกรัม ไปจนถึงขนาดใหญ่ความจุ 10 กิโลกรัม การเลือกซื้อควรพิจารณาถึงจำนวนสมาชิกในครอบครัว หากเป็นครอบครัวขนาดเล็ก ความจุ 4 – 6 กิโลกรัมเป็นขนาดที่เหมาะสม สำหรับครอบครัวขนาดกลางนิยมใช้ขนาด 7-8 กิโลกรัม และขนาด 9 – 10 กิโลกรัมเหมาะสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ที่มีสมาชิกหลายคน

2. เลือกประเภทเครื่องอบผ้าที่เหมาะสมกับที่พักอาศัย

                เนื่องจากประเภทของเครื่องอบผ้ามีหลายแบบ ผู้บริโภคควรคำนึงถึงลักษณะที่พักอาศัยของตนเองก่อนตัดสินใจซื้อ และศึกษาหลักการทำงานของเครื่องอบผ้าแต่ละประเภทให้ดี รวมถึงข้อดีและข้อเสียจากการใช้งานเครื่องอบผ้าแต่ละประเภทเพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานก่อนการตัดสินใจ

3. ทำการเปรียบเทียบราคาเครื่องอบผ้ารุ่นที่ต้องการซื้อ จากร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความน่าเชื่อถือ 2-3 ร้านก่อนเลือก

                ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละร้านอาจจะกำลังมีโปรโมชั่นการขายและของแถมมากมายที่แตกต่างกันไป วิธีเลือกเครื่องอบผ้าที่ดีควรทำการเปรียบเทียบราคาของเครื่องอบผ้าในรุ่นที่ต้องการซื้อนั้นก่อน เพราะเราอาจจะได้เป็นเจ้าของเครื่องอบผ้าคุณภาพดีในราคาที่ถูกกว่าก็ได้

4. สอบถามผู้ขายถึงรายการอุปกรณ์เสริมว่ามีครบตามรายการหรือไม่ รวมถึงความพร้อมของอะไหล่

                เครื่องอบผ้าบางรุ่นจะมาพร้อมอุปกรณ์เสริมสำหรับใช้งานร่วมกัน หากขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดไปอาจทำให้การทำงานของเครื่องไม่สมบูรณ์ จึงควรพิจารณาถึงความครบถ้วนในอุปกรณ์เหล่านี้ รวมถึงอุปกรณ์ป้องกันสัตว์ เช่น หนู แมลงสาบ  มด  ที่จะเข้าไปอาศัยอยู่ และอย่าลืมที่จะสอบถามเกี่ยวกับเรื่องอะไหล่และอัตราการคิดค่าบริการที่ผู้บริโภคควรจะต้องทราบเพื่อเตรียมความพร้อมในเรื่องค่าใช้จ่ายเอาไว้ล่วงหน้า

5. เลือกเครื่องอบผ้าที่สามารถใช้งานได้กับแรงดันไฟฟ้าในที่พักอาศัยของเรา

                ระดับแรงดันไฟฟ้าที่เหมาะสมสำหรับเครื่องอบผ้าที่ควรเลือกใช้งานในบ้านเราคือ 220 โวลต์ ที่ความถี่ 50 Hz. และควรตรวจสอบค่ากำลังไฟฟ้าที่เครื่องอบผ้าใช้งานนั้นมีค่าเท่าไหร่โดยเปรียบเทียบกับขนาดและรุ่นเดียวกันกับยี่ห้ออื่น ๆ รวมทั้งจุดสำคัญที่ต้องดูเพิ่มเติมสำหรับวิธีเลือกเครื่องอบผ้า คือตรวจสอบสายไฟว่าต่อกับปลั๊กแบบสนิทกันหรือไม่ ทั้งนี้สายไฟของอุปกรณ์ประเภทนี้ควรเป็นสายไฟที่มีคุณภาพได้มาตรฐานอุตสาหกรรม และสามารถทนกระแสสูงสุดเมื่อมีการใช้งานได้

6. เลือกเครื่องอบผ้าที่มีใบรับประกันคุณภาพสินค้า

                เพราะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีราคาแพง ดังนั้นระยะเวลาการรับประกันสินค้าจึงมีความจำเป็นสำหรับผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก ในเรื่องนี้ผู้บริโภคควรสอบถามข้อมูลจากผู้ขายให้ชัดเจนถึงรายละเอียดการรับประกันสินค้า ว่ามีระยะเวลารับประกันนานเท่าไร และเงื่อนไขการรับประกันมีความครอบคลุมไปทุกส่วนของเครื่อง หรือเพียงแค่อุปกรณ์ส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือบางยี่ห้ออาจจะมีข้อเสนอพิเศษเพิ่มเติมที่นอกเหนือจากการรับประกันก็ควรสอบถามข้อมูลเหล่านี้ให้ดีและพิจารณาให้ครบถ้วน

                นอกจากทั้งหมดที่ได้กล่าวไป วิธีเลือกเครื่องอบผ้าที่ผู้บริโภคต้องการเป็นเรื่องแรก ๆ คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของดีไซน์ที่มีความสวยงาม สีของตัวเครื่องที่สามารถเข้าได้กับเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ ภายในบ้าน แม้จะผ่านไปกี่ปีก็ยังดูเหมือนใหม่อยู่เสมอ หากเป็นเช่นนั้นเรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของตัวผู้ใช้งานเอง เมื่อได้เครื่องและรุ่นที่ถูกใจอยากแนะนำให้ทดลองเสียบปลั๊กเครื่องอบผ้าดูสักหน่อย ว่าระบบไฟฟ้าภายในตัวเครื่องสามารถทำงานได้ปกติ และให้ผู้ขายช่วยสาธิตวิธีการใช้งานเล็กน้อย รวมถึงการดูแลรักษาแบบง่าย ๆ ก่อนจ่ายเงินทุกครั้งกันด้วยนะ